ที่อยู่ : หมู่ 3 ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ชื่อผู้ดูแล :
มัสยิดในช่วงกลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี) ได้มีพระราชโองการให้ขุดคลองเชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำนครนายก ซึ่งพื้นที่นั้นเป็นป่าตีนเขา มีประชาชนอาศัยอยู่น้อยมาก มีความยาวประมาณ 53 กิโลเมตร กว้าง 6 เมตร ลึก 3.2 เมตร เริ่มขุดเมื่อปี พ.ศ.2433 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2540 ใช้ระยะเวลาในการขุดประมาณ 7 ปี โดยจัดตั้งบริษัทคลองแลคูนาสยามดำเนินการ แล้วพระราชทานนามว่า “คลองรังสิตประยูรศักดิ์” ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ทางด้านชลประทานและการเกษตรกรรม จากนั้นได้เปิดให้ประชาชนเข้าจับจองที่ดินทำมาหากิน ทำนาเป็นส่วนใหญ่ ผู้จับจองจะต้องผ่อนเงินตามจำนวนที่กำหนดกับสหกรณ์ของกระทรวง เกษตราธิการ ชาวไทยมุสลิมกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งหลักแหล่งในพื้นที่คลองรังสิตสายตรงระหว่างคลอง 12 และคลอง 13 บริเวณมัสยิดเราะห์หมัดรัสมีในปัจจุบัน คือ แชนุห์ มีภรรยา คือ โต๊ะมี ถิ่นฐานเดิมมาจากปากลัดพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้าจับจองที่ดินประมาณ 1,000 ไร่ ส่งเงินให้แก่สหกรณ์ฯ หลังจากแชนุห์สิ้นไปแล้ว บุตรชายของท่านโต๊ะหะยีหมัด ซันนุ (โต๊ะมะ) อยู่บางมด ได้เข้ามายึดถือที่ดินทำผ่อนเงินสหกรณ์ต่อ มีครอบครัวน้องๆ ของท่าน 4 คน (แชเต๊ะ, แชแอ, โต๊ะสี, แชหวัง) ร่วมกันทำนา โดยโต๊ะหะยีหมัด ได้แบ่งที่ดินให้แก่น้องๆ ทั้งสี่คนตามความสามารถในการทำงาน ส่วนที่ดินที่เหลือก็ตกเป็นของบรรดาญาติพี่น้องที่อพยพมาจากเพชรบุรี และที่อื่นๆ นอกจากนั้นก็มีมุสลิมจากที่ต่างๆ เข้ามาตั้งหลักแหล่งในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย เมื่อมีมุสลิมมารวมกันก็จะต้องมีสถานที่ประกอบศาสนกิจ จึงได้จัดตั้งบาแลขึ้น 1 หลัง บนที่ดินชลประทานคันคลองรังสิต สร้างด้วยวัสดุในพื้นที่มีไม้ไผ่เป็นโครงสร้าง มุงหลังคาด้วยหญ้าคา ฝาทำด้วยไม้ไผ่ขัดใบตาล ต่อมาก็ได้จัดสร้างเป็นเรือนยกพื้นสร้างด้วยไม้ ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจและย้ายสถานที่ตั้งเปลี่ยนไปมา บนคันคลองรังสิตเขตชลประทาน จนในที่สุดประมาณ 50 ปี ต่อมาจึงได้มีการก่อสร้างมัสยิดขึ้นเป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียว ฝาผนังก่ออิฐ เทปูนพื้นแต่ไม่ได้ยกพื้น ขนาดกว้างประมาณ 4 วา ยาวประมาณ 5 วา โดยมีนายฮัจยีซัน ซันนุ อิหม่ามมะ มอและ นายลี มอและ และ แชพร ล้ำประเสริฐ ซึ่งเป็นหลานๆ ของแชนุห์เป็นผู้ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างมัสยิดขึ้นบนที่ดินของนายวินัย นุชมี (บุตรของโต๊ะหะยีหมัด ซันนุ) บริจาคให้จำนวน 200 ตารางวา จดทะเบียนจัดตั้งมัสยิดเมื่อวันที่13 ตุลาคม พ.ศ. 2496 และตั้งชื่อว่า “มัสยิดเราะห์หมัดรัสมี” โดยมีนายมะ มอและ เป็นอิหม่ามท่านแรก (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 – พ.ศ. 2519)
ในปี พ.ศ. 2518 โต๊ะสี ซันนุ (บุตรสาวคนเล็กของแชนุห์) ได้บริจาคที่ดินให้แก่มัสยิดเพิ่มอีก 100 ตารางวา รวมกับที่นายวินัย นุชมี บริจาคไว้เดิม 200 ตารางวา เป็น 300 ตารางวา เป็นที่ตั้งของมัสยิด หลังจากอิหม่ามมะ มอและ ไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) แล้วนายลี มอและ บุตรชายของอิหม่ามมะ มอและ ก็ได้เป็นอิหม่ามคนต่อมา (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 – พ.ศ. 2524) และเมื่ออิหม่ามลี มอและ ไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) อิหม่ามด๊ะ มอและ ซึ่งเป็นพี่ชายของอิหม่ามลี มอและ ก็ได้เป็นอิหม่ามท่านต่อมา (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 – พ.ศ. 2551) ต่อมาซึ่งประมาณ 20 ปี มัสยิดก็ได้ชำรุดทรุดโทรม อิหม่ามด๊ะ มอและ กรรมการและสัปปุรุษของมัสยิดจึงได้มีมติให้ก่อสร้างมัสยิดหลังใหม่ขึ้นมา (หลังปัจจุบัน) โดยการนำของอิหม่ามด๊ะ มอและ ฮัจยีอิสมาแอน ปิ่นมุข และพันตำรวจเอกองอาจ นุชมี (บุตรชายนายวินัย นุชมี) มัสยิดหลังนี้มีขนาดยาว 23 เมตร กว้าง 13 เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มีโดม 2 โดม รูปทรงสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม วางรากฐานก่อสร้างมัสยิดโดยท่าน อ.วินัย สะมะอูน เมื่อวันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม 2540 เวลา 08.00 น. และก่อสร้างเสร็จได้มีพิธีเปิดป้ายมัสยิดเราะห์หมัดรัสมี โดยท่านจุฬราชมนตรี (ฯพณฯ ฮัจยีสวาท สุมาลยศักดิ์) ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 12 เมษายน 2541 เวลา 12.00 น. ในการก่อสร้างมัสยิดหลังนี้ครอบครัวของพันตำรวจเอกองอาจ นุชมี ได้บริจาคเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับบริจาคที่ดินเพิ่มอีก 300 ตารางวา ครอบครัวของฮัจยีอิสมาแอน ปิ่นมุข ก็ได้บริจาคเงินสมทบร่วมด้วยอีกจำนวนหนึ่ง รวมกับเงินที่พี่น้องชาวมุสลิมร่วมบริจาคแล้ว รวมเงินค่าก่อสร้างประมาณห้าล้านบาท ปัจจุบันมัสยิดเราะห์หมัดรัสมีใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจได้แก่ละหมาดวันศุกร์ละหมาดประจำวัน ละหมาดวันอีดต่างๆ ละหมาดญานาซะห์ (ละหมาดให้แก่ผู้กลับไปสู่ความเมตตาของ อัลเลาะห์ (ซ.บ.)) เป็นต้นและมีการเรียนการสอนทางศาสนา ภาคฟัรดูอีน สังกัดอยู่หน่วยสอบที่ 53 ของสมาคมคุรุสัมพันธ์และเป็นเจ้าภาพประชุมระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่นเสมอมา ปัจจุบันมัสยิดเราะห์หมัดรัสมี มีที่ดินทั้งสิ้น 6 ไร่ 8 ตารางวา เป็นที่ตั้งมัสยิด 1 ไร่ 2 งาน กุโบร์ (สุสาน) 5 ไร่ 6 ตารางวา มีสัปปุรุษ จำนวน 21 ครอบครัว ชาย 197 คน หญิง 75 คน รวม 272 คน โดยมี นายมัคคะเว้น ซันนุ เป็นอิหม่ามคนปัจจุบัน
นายมัคคะเว้น ซันนุ
(อิหม่าม)
นายมานะ ปิ่นสุข
( คอเต็บ )
นายอุดม มอและ
( บิหลั่น )
นายสมศักดิ์ มณีวงค์
( เลขานุการ )
นายนิสอัส โอ๊ะดำ
( เหรัญญิก )
นาง เสนี มอและ
( นายทะเบียน )
นาย จารึก อิศรศักดิ์
( กรรมการ )
นาย ณรงค์ อิศรศักดิ์
( กรรมการ )
นาย ปราถนา ปลอดโปร่ง
( กรรมการ )
นาย วาทิดุล ชันนุ
( กรรมการ )
นาย ศักดิ์ชัย กล่อมเสนาะ
( กรรมการ )
นาย สุรินทร์ ชันนุ
( กรรมการ )
นาง วีณา อิศรศักดิ์
( กรรมการ )
นาย น้อย ศิลารอด
( กรรมการ )
นาย จรูญ แก้วสมนึก
( กรรมการ )
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์0000021090 คน